วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552
วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552
ประสบการณ์ ผู้ป่วย ไข้หวัด2009
E-mail จาก คุณ กิ๊บ ค่ะ
Subject: FW: ประสบการณ์ ผู้ป่วย ไข้หวัด2009
Date: Wed, 8 Jul 2009 14:17:19
อย่าเชื่อข้อมูลของ สธ. .. เรากับลูกก็ป่วย ตอนนี้ก็ยังอยู่ที่ รพ. ข้อมูลที่ Under Report มีอีกเยอะมาก อย่าง case ของเราก็under เหมือนกัน เรื่องของเรื่อง ลูกเรา (6 ขวบกว่า) ป่วยก่อน เมื่อ 2 วันก่อนเค้ามีอาการปวดหัวรุนแรงและไข้สูงมาก ให้ทานยาลดไข้ ไข้ก็ไม่ยอมลดลง เช็ดตัวก็แล้วทำอย่างไรๆ ไข้ก็ไม่ลดลง
เราเลยตัดสินใจพามา รพ. เมื่อพบหมอ เรายืนยันกับหมอว่าเราจะขอทำ Screen Flu (เป็นการ Screen หาความเสี่ยงเบื้องต้น) การทำ Screen Flu หมอจะทำให้เฉพาะผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อ เช่นคลุกคลีกับผู้ป่วยโดยตรง แต่ลูกเราไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ทุกคนที่บ้านแข็งแรงดี โรงเรียนก็รักษาสุขอานามัยอย่างดี เราไม่พาลูกไปในที่ชุมชนและไม่ให้ว่ายน้ำในสระมาเดือนกว่าแล้ว จึงไม่ควรจะติดเชื้อได้ แต่ถึงอย่างไรเราก็ยืนยันกับหมอว่าเราจะขอ Screen
ลืมบอกไปว่าลูกเรา (และเราด้วย) ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ (ธรรมดา) ไปเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมานี่เอง ดังนั้นโอกาสที่จะเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดาคงจะไม่มีแน่ๆ และเมื่อผล Screen ออกมาในครั้งนั้นปรากฎว่าลูกเราเป็น Negative(หมายถึงไม่ติดเชื้อในกลุ่มของ H1N1) เราและหมอยังไม่นิ่งนอนใจ เราเลยขอหมอ Admit เพื่อความสบายใจ เนื่องจากลูกเราไข้สูงมาก (โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 39องศา)
คุณหมอให้เราพักที่โรงพยาบาลตามที่เรา Request และเมื่อถึงตอนเช้าคุณหมอมาเยี่ยมและขอนำเชื้อไปทำ Screen Fluอีกเป็นครั้งที่ 2 เรายินดีตามที่หมอเสนอ เพราะหมอให้ความเห็นว่า เมื่อการตรวจครั้งแรกนั้น ระยะห่างระหว่างการจับไข้กับการตรวจห่างกันแค่ 4 ชั่วโมง อาจจะยังไม่ปรากฎการติดเชื้อให้เห็นชัด แต่ถ้าไข้ยังสูงขนาดนี้ขอตรวจอีกครั้งเพื่อความชัวร์ดีกว่า
เมื่อผลตรวจออกมา ลูกเรา Positive จริงๆ และหมอถามเราว่าต้องการส่งตรวจหา 2009 ต่อหรือเปล่า แต่เราปฏิเสธเพราะทั้งหมอและเรารู้อยู่แล้วว่าลูกเราติดเชื้อแน่ๆ (เค้าไม่มีทางเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดา เพราะเพิ่งฉีดวัคซีนไป และข้อบ่งชี้ค่อนข้างเด่นชัด)
อ้อ .. ลืมบอกไปอีกว่าถ้าผล Screen Flu ออกมาเป็น Positive จะมีความหมายว่า มีโอกาสติดเชื้อด้วยกัน 3 ตัวคือ H1N1 ไข้หวัดใหญ่ธรรมดา, H1N1 ไข้หวัดใหญ่ 2009, และตัวสุดท้ายคือ H2N3 ซึ่งคนไทยไม่ค่อยเป็น ซึ่งถ้าติดเชื้อตัวใดตัวหนึ่งใน 3 ตัวนี้วิธีรักษาจะเหมือนกันทั้ง 3 ตัว
ดังนั้นถ้าผลการตรวจออกมาเป็น Positive หมอจะถามว่าต้องการให้ส่งตรวจ Final เพื่อดูว่าเป็นไข้หวัด 2009 หรือไม่ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกประมาณ 2,500 บาท แต่หมอก็จะบอกว่าแต่อย่างไรก็ตามวิธีการ treat ก็เหมือนกันกับไข้หวัดใหญ่ตัวอื่นๆ อยู่แล้ว และเมื่อเราไม่ส่งตรวจเพื่อ Final ข้อมูลของลูกเราก็จะไม่ถูกส่งไปที่ สธ. และอยากจะบอกว่า
วันที่ลูกเรามา รพ. นั้น เชื้อได้เข้าไปถึงหูชั้นในและโพรงจมูกแล้ว ซึ่งระยะเวลาจับไข้กับการพบหมอห่างกันเพียง 4 ชั่วโมง
ซึ่งอยากจะเตือนทุกท่านว่าเชื้อตัวนี้แรงและแพร่เร็วมาก อย่านิ่งนอนใจถ้าท่านหรือบุตรหลานของท่านมีไข้สูง ปวดศรีษะมาก ขอหมอตรวจเพื่อให้ละเอียดเลยดีกว่าค่ะ หลังจากเรามาเฝ้าลูกเพียงแค่วันเดียว ปรากฎว่าเราเริ่มมีอาการปวดเมื่อยตามตัวและเป็นไข้ ไอไม่หยุด เราจึงรีบไปตรวจปรากฎว่าเราก็ติดเชื้อเหมือนลูกแต่ที่น่ากลัวคือ เราเป็นไข้แค่ 3 ชั่วโมงแต่เมื่อไปตรวจ ปอดของเราเริ่มมีอาการติดเชื้อแล้ว ถ้าทิ้งไว้นานกว่านี้อาจจะเป็นปอดอักเสบ หรือโรคแทรกซ้อนอย่างอื่นๆ ได้ วันนี้เป็นวันที่ 3 ที่เราอยู่ รพ. อาการของลูกดีขึ้นมาก และจะกลับบ้านวันนี้แล้ว ส่วนเรายังอ่อนเพลียอยู่ ยังมีอาการปวดตามตัวอยู่บ้าง แต่ดีขึ้นจากเมื่อวานเยอะมาก และคงจะขอหมอกลับบ้านพร้อมลูกเลย
อยากเตือนว่า ไข้หวัด 2009 ติดง่าย ป่วยไว ลุกลามไว ติดเชื้อไว แต่รักษาง่าย หายไว ถ้ารีบรักษาภายใน 48 ชั่วโมง ดังนั้นถ้าท่านหรือคนใกล้ชิดท่านป่วยมีไข้ ปวดศรีษะ ปวดตามตัวและไอ อย่านิ่งนอนใจ รีบตรวจโดยด่วนเลยค่ะ ด้วยความปรารถนาดีค่ะเพิ่งหายจากไข้หวัด 2009
Subject: FW: ประสบการณ์ ผู้ป่วย ไข้หวัด2009
Date: Wed, 8 Jul 2009 14:17:19
อย่าเชื่อข้อมูลของ สธ. .. เรากับลูกก็ป่วย ตอนนี้ก็ยังอยู่ที่ รพ. ข้อมูลที่ Under Report มีอีกเยอะมาก อย่าง case ของเราก็under เหมือนกัน เรื่องของเรื่อง ลูกเรา (6 ขวบกว่า) ป่วยก่อน เมื่อ 2 วันก่อนเค้ามีอาการปวดหัวรุนแรงและไข้สูงมาก ให้ทานยาลดไข้ ไข้ก็ไม่ยอมลดลง เช็ดตัวก็แล้วทำอย่างไรๆ ไข้ก็ไม่ลดลง
เราเลยตัดสินใจพามา รพ. เมื่อพบหมอ เรายืนยันกับหมอว่าเราจะขอทำ Screen Flu (เป็นการ Screen หาความเสี่ยงเบื้องต้น) การทำ Screen Flu หมอจะทำให้เฉพาะผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อ เช่นคลุกคลีกับผู้ป่วยโดยตรง แต่ลูกเราไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ทุกคนที่บ้านแข็งแรงดี โรงเรียนก็รักษาสุขอานามัยอย่างดี เราไม่พาลูกไปในที่ชุมชนและไม่ให้ว่ายน้ำในสระมาเดือนกว่าแล้ว จึงไม่ควรจะติดเชื้อได้ แต่ถึงอย่างไรเราก็ยืนยันกับหมอว่าเราจะขอ Screen
ลืมบอกไปว่าลูกเรา (และเราด้วย) ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ (ธรรมดา) ไปเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมานี่เอง ดังนั้นโอกาสที่จะเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดาคงจะไม่มีแน่ๆ และเมื่อผล Screen ออกมาในครั้งนั้นปรากฎว่าลูกเราเป็น Negative(หมายถึงไม่ติดเชื้อในกลุ่มของ H1N1) เราและหมอยังไม่นิ่งนอนใจ เราเลยขอหมอ Admit เพื่อความสบายใจ เนื่องจากลูกเราไข้สูงมาก (โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 39องศา)
คุณหมอให้เราพักที่โรงพยาบาลตามที่เรา Request และเมื่อถึงตอนเช้าคุณหมอมาเยี่ยมและขอนำเชื้อไปทำ Screen Fluอีกเป็นครั้งที่ 2 เรายินดีตามที่หมอเสนอ เพราะหมอให้ความเห็นว่า เมื่อการตรวจครั้งแรกนั้น ระยะห่างระหว่างการจับไข้กับการตรวจห่างกันแค่ 4 ชั่วโมง อาจจะยังไม่ปรากฎการติดเชื้อให้เห็นชัด แต่ถ้าไข้ยังสูงขนาดนี้ขอตรวจอีกครั้งเพื่อความชัวร์ดีกว่า
เมื่อผลตรวจออกมา ลูกเรา Positive จริงๆ และหมอถามเราว่าต้องการส่งตรวจหา 2009 ต่อหรือเปล่า แต่เราปฏิเสธเพราะทั้งหมอและเรารู้อยู่แล้วว่าลูกเราติดเชื้อแน่ๆ (เค้าไม่มีทางเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดา เพราะเพิ่งฉีดวัคซีนไป และข้อบ่งชี้ค่อนข้างเด่นชัด)
อ้อ .. ลืมบอกไปอีกว่าถ้าผล Screen Flu ออกมาเป็น Positive จะมีความหมายว่า มีโอกาสติดเชื้อด้วยกัน 3 ตัวคือ H1N1 ไข้หวัดใหญ่ธรรมดา, H1N1 ไข้หวัดใหญ่ 2009, และตัวสุดท้ายคือ H2N3 ซึ่งคนไทยไม่ค่อยเป็น ซึ่งถ้าติดเชื้อตัวใดตัวหนึ่งใน 3 ตัวนี้วิธีรักษาจะเหมือนกันทั้ง 3 ตัว
ดังนั้นถ้าผลการตรวจออกมาเป็น Positive หมอจะถามว่าต้องการให้ส่งตรวจ Final เพื่อดูว่าเป็นไข้หวัด 2009 หรือไม่ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกประมาณ 2,500 บาท แต่หมอก็จะบอกว่าแต่อย่างไรก็ตามวิธีการ treat ก็เหมือนกันกับไข้หวัดใหญ่ตัวอื่นๆ อยู่แล้ว และเมื่อเราไม่ส่งตรวจเพื่อ Final ข้อมูลของลูกเราก็จะไม่ถูกส่งไปที่ สธ. และอยากจะบอกว่า
วันที่ลูกเรามา รพ. นั้น เชื้อได้เข้าไปถึงหูชั้นในและโพรงจมูกแล้ว ซึ่งระยะเวลาจับไข้กับการพบหมอห่างกันเพียง 4 ชั่วโมง
ซึ่งอยากจะเตือนทุกท่านว่าเชื้อตัวนี้แรงและแพร่เร็วมาก อย่านิ่งนอนใจถ้าท่านหรือบุตรหลานของท่านมีไข้สูง ปวดศรีษะมาก ขอหมอตรวจเพื่อให้ละเอียดเลยดีกว่าค่ะ หลังจากเรามาเฝ้าลูกเพียงแค่วันเดียว ปรากฎว่าเราเริ่มมีอาการปวดเมื่อยตามตัวและเป็นไข้ ไอไม่หยุด เราจึงรีบไปตรวจปรากฎว่าเราก็ติดเชื้อเหมือนลูกแต่ที่น่ากลัวคือ เราเป็นไข้แค่ 3 ชั่วโมงแต่เมื่อไปตรวจ ปอดของเราเริ่มมีอาการติดเชื้อแล้ว ถ้าทิ้งไว้นานกว่านี้อาจจะเป็นปอดอักเสบ หรือโรคแทรกซ้อนอย่างอื่นๆ ได้ วันนี้เป็นวันที่ 3 ที่เราอยู่ รพ. อาการของลูกดีขึ้นมาก และจะกลับบ้านวันนี้แล้ว ส่วนเรายังอ่อนเพลียอยู่ ยังมีอาการปวดตามตัวอยู่บ้าง แต่ดีขึ้นจากเมื่อวานเยอะมาก และคงจะขอหมอกลับบ้านพร้อมลูกเลย
อยากเตือนว่า ไข้หวัด 2009 ติดง่าย ป่วยไว ลุกลามไว ติดเชื้อไว แต่รักษาง่าย หายไว ถ้ารีบรักษาภายใน 48 ชั่วโมง ดังนั้นถ้าท่านหรือคนใกล้ชิดท่านป่วยมีไข้ ปวดศรีษะ ปวดตามตัวและไอ อย่านิ่งนอนใจ รีบตรวจโดยด่วนเลยค่ะ ด้วยความปรารถนาดีค่ะเพิ่งหายจากไข้หวัด 2009
10 วิธี สุขฟรี - ปัจจุบันขณะที่คุณสุขเป็น ตามแนวท่าน ดิช นัท ฮันส์ - หมู่บ้านพลัม
1. วันว่างลองให้วันทั้งวันอยู่กับการว่าง ไม่มีนัด ไม่ไปธุระที่ไหนไม่กำหนดตารางอะไรให้ชีวิต จะทำกิจวัตรอะไรก็ให้เป็นแบบช้าๆ สบายๆไม่รีบเร่ง อยู่กับแต่ละกิจกรรมอย่างเต็มร้อยให้ใจได้พักผ่อนอย่างแท้จริงกับการดำรงอยู่ในปัจจุบันขณะ วันว่างๆจะช่วยเติมเต็มพลังกายและใจให้แก่เรา แถมยังช่วยลดใช้พลังงานโลกด้วยวันนั้นอาจจะยอมให้ตัวเองนอนตื่นสายกว่าปกติสักนิดอาบน้ำแบบมอบความทะนุถนอมให้กับร่างกายเบิกบานกับอาหารเช้าที่ดีกับสุขภาพ เปิดประตู เปิดหน้าต่างรับลมธรรมชาติเดินสำรวจละแวกบ้านถ้าจะหยิบหนังสือที่ซื้อไว้ตั้งนานแต่ยังไม่ได้อ่านสักทีมาอ่านก็ไม่ผิดกฎอะไรตกค่ำจะลองทานมื้อเย็นใต้แสงเทียนให้หลอดไฟกับมิเตอร์ได้พักผ่อนก็ให้ความรู้สึกพิเศษดีเช่นกัน
2 . หายใจเล่นสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับการอยู่เงียบๆคนเดียว ติดทีวี ติดโทรศัพท์อาจลองหาเวลาตีสนิทกับเพื่อนใกล้ตัวของเราทั้งสอง คือ คุณลมหายใจเข้าและคุณลมหายใจออก ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง เดิน นอน หรือ เคลื่อนไหวเราจะตระหนักรู้ถึงเพื่อนสองคนนี้อยู่เสมอ หมั่นเช็คอยู่เรื่อยๆว่าเพื่อนทั้งสองคนของเรามีสภาพอย่างไร ยังสบายดีอยู่หรือเปล่าเมื่อเราดูแลลมหายใจ ลมหายใจก็จะดูแลเรา การดุแลกันและกันเช่นนี้จะส่งผลดีต่อทางร่างกายและจิตใจความสงบที่เกิดจากภายในจะส่งผลที่น่าประทับใจถึงภายนอกในเวลาที่เราต้องเผชิญกับเรื่องยากๆ ต้องคิด ตัดสินใจและทำอะไรอยู่ตลอดเวลา การได้พักสัก 15 นาทีหรือสักชั่วโมงจะช่วยให้หัวที่เคยหมุนจนร้อน ใจที่เต้นรัวเร็วร่างกายที่เครียดตึงค่อยๆ ผ่อนคลายและเบาลงอย่างไม่น่าเชื่อ
3. ชื่นชมธรรมชาติ ไม่ต้องรอให้ถึงวันพักร้อน แค่ตื่นเช้าขึ้นสักนิดดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ให้แสงแรกของพระอาทิตย์ล้างตาให้สะอาด ช่วงสายๆอาจจะมองท้องฟ้าสัก 5-10 นาที ดูเมฆที่ค่อยๆเปลี่ยนรูปก็เติมความสดชื่นได้ดีบ่ายคล้อยเดินเล่นให้สายลมเย็นปะทะหน้าเบาๆสูดเอากลิ่นหอมของดอกไม้ใบหญ้า ได้เวลาพลบค่ำปิดไฟให้หมดจะได้เห็นดาวและเดือนที่ลอยเกลื่อนฟ้าได้ชัดขึ้นให้เวลาธรรมชาติได้บำบัดเราทั้งกายและจิตใจ
4. สลายไขมัน
สำหรับคนบ้าพลัง คนกลัวอ้วน คนไม่ชอบออกกำลังกายการออกกำลังกายให้ได้เหงื่อจะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นหรืออาจว่ายน้ำในความเงียบ ซึ่งนั้นหมายถึงรวมไปถึงเสียงในหัวเราด้วยลองว่ายไปเรื่อยๆ ตระหนักรู้การเคลื่อนไหวของร่างกายเราเสียงในหัวเราจะค่อยๆ เงียบลงเอง หรืออาจจะลองปั่นจักรยานรับลมสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ในหมู่บ้าน หรืออะไรก็ได้ที่เราชอบนอกจากจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข (เอ็นโดฟิน)แล้วยังช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีอีกด้วย
5. ศิลปินสมัครเล่นหยิบดินสอหรือสี ขึ้นมาวาดรูปแบบไม่ห่วงสวย ปลดปล่อยจินตนาการให้ความเป็นเด็กในตัวออกมามีชีวิตผ่านงานศิลปะหรือประดิษฐ์งานฝีมืออะไรสักอย่างที่ทำให้เราได้มีพื้นที่และอิสนระจากความคิด ความยึดติด ทั้งนี้พบว่าการถักนิตติ้งช่วยสงบใจได้เป็นอย่างดี แถมยังเสริมสร้างสมาธืบำบัดความเบื่อหน่าย ความเครียด และแรงกดดันจากการทำงานทั้งยังได้ผลงานเป็นของขวัญให้คนรอบข้างอีกด้วย เรียกว่า บำบัดใจผู้ให้สุขใจผู้รับ
6. สุขใจกับงานบ้าน การได้ลงมือ ปัดกวาดเช็ดถู จัดข้าวของในบ้านให้เป็นระเบียบ ทำสวนปลูกต้นไม้ ตัดแต่งใบเสีย ล้วนเป็นโอกาส ให้เราได้กลับมาปัดกวาดเช็ดถูจัดระเบียบ และรดน้ำเมล็ดพันธุ์แห่งความสุข ให้ใจเราได้เติบโต งอกงามสะอาด และใหม่สดอยู่เสมอ "บ้านสะอาดสดใส ใจก็งดงาม"
7. สนทนาใจใช้เวลากับเพื่อนแลกเปลี่ยนสุขทุกข์ของกันและกันช่วยฝึกการฟังอย่างลึกซึ้ง และทำให้ตระหนักรู้ว่าเรามีคนอยู่เคียงข้างเสมอ หาวันว่างยามบ่าย บรรยากาศสบายๆที่บ้านใครสักคนนั่งพุดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาในวิถีแห่งสติอาจเป็นความตื่นเต้นจากความรับผิดชอบใหม่ๆหรือมองเห็นความสดใหม่ในงานเก่าหรือจะเป็นผู้คนที่เราพบเจอได้เรียนรู้ความสุขที่เรามี หรือแม้แต่ความเหนื่อยล้า เรื่องอกหัก ความทุกข์ใจความยากลำบากในครอบครัวที่ต้องเผชิญอื่นๆอีกมากมายที่เราพร้อมเปิดใจแบ่งปันต่อกันการได้ใช้เวลาอยู่ตรงนี้ด้วยกันอย่างเต็มเปี่ยมถือเป็นการบำรุงหล่อเลี้ยงซึ่งกันและกันแบบไม่ต้องใช้สตางค์
8. กลับบ้านแล้วใช้เวลาเพื่อพูดคุย ทำความรู้จัก เรียนรู้กันและกันให้มากขึ้นลองเริ่มจากการบอกกล่าวความรู้สึกภายในกับคนในบ้านไม่ว่าจะเป็นการกล่าวขอโทษสิ่งที่เราอาจจะพลาดพลั้งไปจนทำให้อีกฝ่ายเสียใจหรือกล่าวขอบคุณในความน่ารัก ความดีที่อีกฝ่ายได้ทำให้แก่เราหรือเลือกกิจกรรมที่ชอบด้วยกันที่บ้าน เช่น ดื่มน้ำชา กินขนมทำอาหารด้วยกัน นอนดูหนังเรื่องโปรด อ่านหนังสือ ผลัดกันเล่านิทานเล่นเกม ออกกำลังกาย ร้องเพลง เล่นดนตรีปิดท้ายด้วยการกอดสมาธิก็อบอุ่นดีไม่น้อย
9 แบ่งปันด้วยใจแบ่งปันเวลาทำประโยชน์เพื่อคนอื่นและสังคม บางคนอาจเริ่มต้นง่ายๆจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว เช่น โปรยอาหารให้นกตัวน้อยๆ ในสวนที่บ้านเดินเก็บขยะแถวบ้าน รื้อข้าวของที่ไม่ใช้แล้วหรือไม่ค่อยได้ใช้(แถมได้ฝึกการตัดใจด้วย) มาทำความสะอาดแล้วนำไปบริจาคหาเจ้าของที่คู่ควรคนใหม่ หรือจะเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาต่างๆก็มีให้เลือกมากมาย ลองเข้าไปดูที่เว็บไซต์http://www.volunteerspirit.org/
10 ยิ้ม
ยิ้ม ให้กับตัวเองยิ้มแบบใสๆ ยิ้มให้กว้างๆ จนเผื่อแผ่ไปยังคนรอบข้าง แล้วจะพบว่าความสุขใจที่ไม่ต้องใช้สตางค์แบบนี้นั้นแสนวิเศษ
ยิ่งให้ก็ยิ่งได้
ที่มา : วารสาร พลัม ฉบับที่6 กรกฎาคม-กันยายน 2552
*******
2 . หายใจเล่นสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับการอยู่เงียบๆคนเดียว ติดทีวี ติดโทรศัพท์อาจลองหาเวลาตีสนิทกับเพื่อนใกล้ตัวของเราทั้งสอง คือ คุณลมหายใจเข้าและคุณลมหายใจออก ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง เดิน นอน หรือ เคลื่อนไหวเราจะตระหนักรู้ถึงเพื่อนสองคนนี้อยู่เสมอ หมั่นเช็คอยู่เรื่อยๆว่าเพื่อนทั้งสองคนของเรามีสภาพอย่างไร ยังสบายดีอยู่หรือเปล่าเมื่อเราดูแลลมหายใจ ลมหายใจก็จะดูแลเรา การดุแลกันและกันเช่นนี้จะส่งผลดีต่อทางร่างกายและจิตใจความสงบที่เกิดจากภายในจะส่งผลที่น่าประทับใจถึงภายนอกในเวลาที่เราต้องเผชิญกับเรื่องยากๆ ต้องคิด ตัดสินใจและทำอะไรอยู่ตลอดเวลา การได้พักสัก 15 นาทีหรือสักชั่วโมงจะช่วยให้หัวที่เคยหมุนจนร้อน ใจที่เต้นรัวเร็วร่างกายที่เครียดตึงค่อยๆ ผ่อนคลายและเบาลงอย่างไม่น่าเชื่อ
3. ชื่นชมธรรมชาติ ไม่ต้องรอให้ถึงวันพักร้อน แค่ตื่นเช้าขึ้นสักนิดดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ให้แสงแรกของพระอาทิตย์ล้างตาให้สะอาด ช่วงสายๆอาจจะมองท้องฟ้าสัก 5-10 นาที ดูเมฆที่ค่อยๆเปลี่ยนรูปก็เติมความสดชื่นได้ดีบ่ายคล้อยเดินเล่นให้สายลมเย็นปะทะหน้าเบาๆสูดเอากลิ่นหอมของดอกไม้ใบหญ้า ได้เวลาพลบค่ำปิดไฟให้หมดจะได้เห็นดาวและเดือนที่ลอยเกลื่อนฟ้าได้ชัดขึ้นให้เวลาธรรมชาติได้บำบัดเราทั้งกายและจิตใจ
4. สลายไขมัน
สำหรับคนบ้าพลัง คนกลัวอ้วน คนไม่ชอบออกกำลังกายการออกกำลังกายให้ได้เหงื่อจะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นหรืออาจว่ายน้ำในความเงียบ ซึ่งนั้นหมายถึงรวมไปถึงเสียงในหัวเราด้วยลองว่ายไปเรื่อยๆ ตระหนักรู้การเคลื่อนไหวของร่างกายเราเสียงในหัวเราจะค่อยๆ เงียบลงเอง หรืออาจจะลองปั่นจักรยานรับลมสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ในหมู่บ้าน หรืออะไรก็ได้ที่เราชอบนอกจากจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข (เอ็นโดฟิน)แล้วยังช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีอีกด้วย
5. ศิลปินสมัครเล่นหยิบดินสอหรือสี ขึ้นมาวาดรูปแบบไม่ห่วงสวย ปลดปล่อยจินตนาการให้ความเป็นเด็กในตัวออกมามีชีวิตผ่านงานศิลปะหรือประดิษฐ์งานฝีมืออะไรสักอย่างที่ทำให้เราได้มีพื้นที่และอิสนระจากความคิด ความยึดติด ทั้งนี้พบว่าการถักนิตติ้งช่วยสงบใจได้เป็นอย่างดี แถมยังเสริมสร้างสมาธืบำบัดความเบื่อหน่าย ความเครียด และแรงกดดันจากการทำงานทั้งยังได้ผลงานเป็นของขวัญให้คนรอบข้างอีกด้วย เรียกว่า บำบัดใจผู้ให้สุขใจผู้รับ
6. สุขใจกับงานบ้าน การได้ลงมือ ปัดกวาดเช็ดถู จัดข้าวของในบ้านให้เป็นระเบียบ ทำสวนปลูกต้นไม้ ตัดแต่งใบเสีย ล้วนเป็นโอกาส ให้เราได้กลับมาปัดกวาดเช็ดถูจัดระเบียบ และรดน้ำเมล็ดพันธุ์แห่งความสุข ให้ใจเราได้เติบโต งอกงามสะอาด และใหม่สดอยู่เสมอ "บ้านสะอาดสดใส ใจก็งดงาม"
7. สนทนาใจใช้เวลากับเพื่อนแลกเปลี่ยนสุขทุกข์ของกันและกันช่วยฝึกการฟังอย่างลึกซึ้ง และทำให้ตระหนักรู้ว่าเรามีคนอยู่เคียงข้างเสมอ หาวันว่างยามบ่าย บรรยากาศสบายๆที่บ้านใครสักคนนั่งพุดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาในวิถีแห่งสติอาจเป็นความตื่นเต้นจากความรับผิดชอบใหม่ๆหรือมองเห็นความสดใหม่ในงานเก่าหรือจะเป็นผู้คนที่เราพบเจอได้เรียนรู้ความสุขที่เรามี หรือแม้แต่ความเหนื่อยล้า เรื่องอกหัก ความทุกข์ใจความยากลำบากในครอบครัวที่ต้องเผชิญอื่นๆอีกมากมายที่เราพร้อมเปิดใจแบ่งปันต่อกันการได้ใช้เวลาอยู่ตรงนี้ด้วยกันอย่างเต็มเปี่ยมถือเป็นการบำรุงหล่อเลี้ยงซึ่งกันและกันแบบไม่ต้องใช้สตางค์
8. กลับบ้านแล้วใช้เวลาเพื่อพูดคุย ทำความรู้จัก เรียนรู้กันและกันให้มากขึ้นลองเริ่มจากการบอกกล่าวความรู้สึกภายในกับคนในบ้านไม่ว่าจะเป็นการกล่าวขอโทษสิ่งที่เราอาจจะพลาดพลั้งไปจนทำให้อีกฝ่ายเสียใจหรือกล่าวขอบคุณในความน่ารัก ความดีที่อีกฝ่ายได้ทำให้แก่เราหรือเลือกกิจกรรมที่ชอบด้วยกันที่บ้าน เช่น ดื่มน้ำชา กินขนมทำอาหารด้วยกัน นอนดูหนังเรื่องโปรด อ่านหนังสือ ผลัดกันเล่านิทานเล่นเกม ออกกำลังกาย ร้องเพลง เล่นดนตรีปิดท้ายด้วยการกอดสมาธิก็อบอุ่นดีไม่น้อย
9 แบ่งปันด้วยใจแบ่งปันเวลาทำประโยชน์เพื่อคนอื่นและสังคม บางคนอาจเริ่มต้นง่ายๆจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว เช่น โปรยอาหารให้นกตัวน้อยๆ ในสวนที่บ้านเดินเก็บขยะแถวบ้าน รื้อข้าวของที่ไม่ใช้แล้วหรือไม่ค่อยได้ใช้(แถมได้ฝึกการตัดใจด้วย) มาทำความสะอาดแล้วนำไปบริจาคหาเจ้าของที่คู่ควรคนใหม่ หรือจะเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาต่างๆก็มีให้เลือกมากมาย ลองเข้าไปดูที่เว็บไซต์http://www.volunteerspirit.org/
10 ยิ้ม
ยิ้ม ให้กับตัวเองยิ้มแบบใสๆ ยิ้มให้กว้างๆ จนเผื่อแผ่ไปยังคนรอบข้าง แล้วจะพบว่าความสุขใจที่ไม่ต้องใช้สตางค์แบบนี้นั้นแสนวิเศษ
ยิ่งให้ก็ยิ่งได้
ที่มา : วารสาร พลัม ฉบับที่6 กรกฎาคม-กันยายน 2552
*******
วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552
กำหนดการพิธีปิดการอบรม เสาร์ที่ 18 กค 2552
From: pakwipa namjunta noonuy2923@gmail.com
Date: 2009/6/29
Subject: กำหนดการพิธีปิดการอบรม
To: NEC_Anant <1anant@gmail.com>, popinfo@gmail.com
รบกวนลงเว็บรุ่นให้ด้วยนะคะเพื่อประชาสัมพันธ์
ถ้าหากว่าใครที่ต้องการ
เข้าร่วมงานหรือร่วมจัดแสดงสินค้าพิธีปิดการอบรม NEC ปีงบประมาณ 2552
กำหนดการพิธีปิดการอบรม เสาร์ที่ 18 กค 2552
แจ้งภายในวันที่ 3 กรกฏาคม 2552
ค่ามัดจำ 500 บาท และจะคืนให้หลังจากที่จบงาน
งานนี้เป็นงานใหญ่ของ NEC เลยก็ว่าได้นะเพราะว่ามีหน่วยร่วมที่
เข้าร่วมงาน 14 รุ่น 7 หน่วยร่วม (หน่วยร่วมทั้งหมดของภาคตะวันออก)
ถ้าใครสนใจออกร้านให้แจ้งชื่อได้ที่นุ้ยนะคะ
ขอบคุณคะ
นุ้ย 08-1715-8517
.........
วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552
พิธีปิดการอบรมโครงการ NEC ปีงบประมาณ 2552
From: pakwipa namjunta noonuy2923@gmail.com
Date: 2009/6/5
Subject: เชิญร่วมงานพิธีปิดการอบรม
เรียนเชิญทุกท่าน เข้าร่วมงานพิธีปิดการอบรมโครงการ NEC ปีงบประมาณ 2552
ณ หอประชุมธำรง บัวศรี
ในวันเสาร์ที่ 18 กรกฏาคม 2552
ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.00 น.
ในงานมีการจัดแสดงสินค้าของผู้ผ่านการอบรมตั้งแต่ปีงบ 2545
ซึ่งในงานนี้มีผู้เข้าร่วมพิธีปิด 6 หน่วยร่วม จำนวน 12 รุ่น
(หน่วยร่วมในภาคตะวันออกทั้งหมด ถือเป็นงานใหญ่ของ NEC เลย)
ถ้าสนใจออกบู๊ทติดต่อได้ที่นุ้ยนะคะ
ขอบคุณคะ
นุ้ย โทร. 08-17158517
Date: 2009/6/5
Subject: เชิญร่วมงานพิธีปิดการอบรม
เรียนเชิญทุกท่าน เข้าร่วมงานพิธีปิดการอบรมโครงการ NEC ปีงบประมาณ 2552
ณ หอประชุมธำรง บัวศรี
ในวันเสาร์ที่ 18 กรกฏาคม 2552
ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.00 น.
ในงานมีการจัดแสดงสินค้าของผู้ผ่านการอบรมตั้งแต่ปีงบ 2545
ซึ่งในงานนี้มีผู้เข้าร่วมพิธีปิด 6 หน่วยร่วม จำนวน 12 รุ่น
(หน่วยร่วมในภาคตะวันออกทั้งหมด ถือเป็นงานใหญ่ของ NEC เลย)
ถ้าสนใจออกบู๊ทติดต่อได้ที่นุ้ยนะคะ
ขอบคุณคะ
นุ้ย โทร. 08-17158517
วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2552
อบรมเพื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี K SME Care ฟรี
โครงการอบรมเพื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี K SME Care รุ่นที่ 10 เปิดรับสมัครแล้ว วันนี้ – 20 ก.ค. 2552 นี้ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
The strength to get up..Are you going to finish strong?
Good clip which shared from KIB's e-mail...
I have no arms and no legs.
....................
A long the way you might flow down.
So what do you do !! when you flow down?
Get back up..!!
Sometimes when your life flow down.
You felt like no strength to get back up.
Do you think you have hope?
------------
I am down here.......face down....and I've no arms..no legs.
So, it should be impossible for one to get back up.
But it's not for me. I'll try one hundred times to get up.!!
Anyone fails one hundred times?
If I fail and I give up, do you think I'll get up?
I try again and again.... It's not the END.
It's the matter how do you finish.
Are you gonna finish strong?
You'll find that strength to get back up.
I need to finish strong.!!!
If want to download this clip, click here: http://www.4shared.com/file/107917860/d9c83c22/AAA.html
วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
โครงการ “พี่ กับ น้อง อิ่มท้องอิ่มใจ” ณ โรงเรียนบ้านคลองโค อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี
เพื่อน ๆ พี่ ๆ ค่ะ
สนใจไหมค่ะ?
ถ้าสนใจ เราก็จะได้นัดและรวมตัวเพื่อไปถึง โรงเรียน 9:00 นะค่ะ (ตื่นไหวไหมค่ะ?)
ป๊อป
คนที่ Confirm แล้ว ที่ไปบริจาค
1.พี่อนันต์
2. กิ๊บ
3. ป๊อป
4. พี่ใหญ่
คนที่ Confirm แล้ว ที่ไปเจอที่บ้านพี่ปราโมทย์ช่วงบ่าย
1. พี่ปราโมทย์
2. พี่อนันต์
3. กิ๊บ
4. ป๊อป
5. พี่ใหญ่
6. น้าหมู
7. เก๋
8. พี่อัญ
กิจกรรมเบื้องต้น
ตีปิงปอง
คาราโอเกะ
หม่ำข้าว (ประมาณ 5 โมงเย็น)
Happy birthday คนเกิดเดือน เมษายน 4 คนนะ (รู้มั๊ยใครบ้างเอ่ย???)
เฉลยหล่ะนะ !!!!!
สนใจไหมค่ะ?
ถ้าสนใจ เราก็จะได้นัดและรวมตัวเพื่อไปถึง โรงเรียน 9:00 นะค่ะ (ตื่นไหวไหมค่ะ?)
ป๊อป
คนที่ Confirm แล้ว ที่ไปบริจาค
1.พี่อนันต์
2. กิ๊บ
3. ป๊อป
4. พี่ใหญ่
คนที่ Confirm แล้ว ที่ไปเจอที่บ้านพี่ปราโมทย์ช่วงบ่าย
1. พี่ปราโมทย์
2. พี่อนันต์
3. กิ๊บ
4. ป๊อป
5. พี่ใหญ่
6. น้าหมู
7. เก๋
8. พี่อัญ
กิจกรรมเบื้องต้น
ตีปิงปอง
คาราโอเกะ
หม่ำข้าว (ประมาณ 5 โมงเย็น)
Happy birthday คนเกิดเดือน เมษายน 4 คนนะ (รู้มั๊ยใครบ้างเอ่ย???)
เฉลยหล่ะนะ !!!!! ขอขอบคุณพี่โมทย์และครอบครัวสำหรับอาหารเย็น..แสนอร่อย
และขอบคุณพี่ใหญ่ พี่อนันต์ และกิ๊บ ที่ทำให้เราได้หม่ำเค๊ก อร่อย ๆ ค่ะ
โครงการ “พี่ กับ น้อง อิ่มท้องอิ่มใจ”
ณ โรงเรียนบ้านคลองโค อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี
จะไปบริจาควันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2552
ณ โรงเรียนบ้านคลองโค อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี
จะไปบริจาควันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2552
รายละเอียดของโครงการ
ชมรมคาทอลิก มหาวิทยาบูรพา(กลุ่มเทิดมารีย์) กับ กลุ่มเยาวชนวัดแม่พระเมืองลูร์ด บางแสน ร่วมกัน ทำโครงการ “พี่ กับ น้อง อิ่มท้องอิ่มใจ” เพื่อช่วยเหลือโรงเรียนด้านอาหารกลางวัน วัตถุดิบในการทำอาหารสำหรับอาหารมื้อต่อ ๆ ไป บริจาคสิ่งของที่ทางโรงเรียนต้องการและทุนการศึกษา
รายละเอียดของโรงเรียน
โรงเรียนบ้านคลองโคได้เปิดสอนแก่เด็กที่ทางครอบครัวมีรายได้น้อย และขาดโอกาสทางการศึกษาให้ได้มีโอกาสเรียนฟรี สำหรับส่วนของทุนการศึกษาและค่าอาหารกลางวันทางโรงเรียนจะได้รับจาการบริจาค มีนักเรียนทั้งหมด 57 คน ตั้งแต่ อนุบาล1–ประถมศึกษาปีที่ 6 มีคุณครู 2 คน
๛ ขอเชิญร่วมบริจาค ๛
ขอเชิญพี่น้องร่วมบริจาคกับ
โครงการ “ พี่กับน้อง อิ่มท้องอิ่มใจ ”
ณ โรงเรียนบ้านคลองโค อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี
วันอาทิตย์ ที่ 17 พฤษภาคม 2009
โดยสิ่งของที่ต้องการรับบริจาค ได้แก่
1. เสื้อผ้า
- ชุดนอนสำหรับเด็กอนุบาล (อายุ 3-5 ปี)
- เสื้อลายดอก
- เสื้อผ้าสำหรับเด็ก-ผู้ใหญ่
(จะเป็นของที่ใช้แล้ว หรือ ของใหม่ก็ได้)
- ผ้าขนหนู
- กิ๊ฟติดผม, โบว์ผูกผม, ยางรัดผม ฯลฯ
(สำหรับเด็กๆ ไว้ใช้ในการแสดงงานของโรงเรียน)
2. อาหาร
- อาหารแห้ง เช่น ข้าวสาร, มาม่า , น้ำมันพืช, น้ำปลา,
ซอส, น้ำตาลทราย, ซีอิ๋วขาว, ไข่ไก่
- แก้วน้ำ (แก้ว)
3. หนังสือ สำหรับเด็กอนุบาล-ประถม
4. ทุนอาหารกลางวัน
ตารางเวลาและกิจกรรม (โดยชมรมคาทอลิก มหาวิทยาบูรพา(กลุ่มเทิดมารีย์) กับ กลุ่มเยาวชนวัดแม่พระเมืองลูร์ด บางแสน)
06.30 น. รวมตัวพร้อมกันที่โบสถ์
07.00 น. ออกเดินทางจากโบสถ์
09.00 น. ถึงโรงเรียนบ้านคลองโค
09.30 น. เริ่มกิจกรรมสันทนาการ
11.00 น. ทานอาหารกลางวันร่วมกัน
12.30 น. มอบทุนการศึกษา+มอบของ+ถ่ายรูปรวมกัน+อำลา
13.00 น. เดินทางกลับ
*ท่านใดสนใจบริจาค สามารถติดต่อได้ที่ พี่อนันต์ประสานงานให้อยู่ค่ะ โทร 08 1307 6933
แผนที่
http://picasaweb.google.com/lh/photo/0aK7uoiI5OFR3oq-ivaL7A?feat=directlink
วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552
โครงการต้นกล้าอาชีพ (อบรมฟรี)
โครงการต้นกล้าอาชีพ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
มีหลักสูตรดี ๆ ให้เลือกเยอะเลย เรียนที่ ม.บูรพา ก็มีนะค่ะ เรียนฟรี ลงทะเบียน online
http://www.tonkla-archeep.com/
http://www.tonkla-archeep.com/index.php?newsid=18&ac=detail
มีหลักสูตรดี ๆ ให้เลือกเยอะเลย เรียนที่ ม.บูรพา ก็มีนะค่ะ เรียนฟรี ลงทะเบียน online
ครั้งที่ 2 : 18 เมย - 2 พค เรียน 3 พค 52
ครั้งที่ 3 : 18-31 พค เรียน 1 มิย 52
ครั้งที่ 4 : 18 พค - 1 กค เรียน 2 กค 52
เพื่อน ๆ ลองดูรายละเอียนเพิ่มเติมนะค่ะhttp://www.tonkla-archeep.com/
http://www.tonkla-archeep.com/index.php?newsid=18&ac=detail
วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2552
วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2552
ข่าวจาก เจ้าหน้าที่โครงการ NEC (คุณ นุ้ย)
----- Original Message -----
From: pakwipa namjunta
To: chatphet@gmail.com ; popinfo@gmail.com
Sent: Wednesday, April 08, 2009 11:38 AM
Subject: แจ้งเรื่องพิธีปิดผู้เข้าอบรมร่นที่ 4/2552 ทุกท่าน
เนื่องจากโครงการ ฯ จะมีพิธีปิดการอบรมของรุ่นที่ 2/2552
ในวันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม 2552
ณ ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา
ในการนี้ทางโครงการ ฯ ต้องการให้ผู้ผ่านการอบรม นำผลิตภัณฑ์ หรือสินค้าของตนเองออกแสดงในงานสนใจ
ติดต่อลงชื่อ เพื่อจองบู๊ทแสดงสินค้าได้ (นุ้ย จนท.NEC โทร 08-1715-8517)
กรุณาระบุชื่อของผลิตภัณฑ์ จำกัดคนละ 1 booth เท่านั้น
From: pakwipa namjunta
To: chatphet@gmail.com ; popinfo@gmail.com
Sent: Wednesday, April 08, 2009 11:38 AM
Subject: แจ้งเรื่องพิธีปิดผู้เข้าอบรมร่นที่ 4/2552 ทุกท่าน
เนื่องจากโครงการ ฯ จะมีพิธีปิดการอบรมของรุ่นที่ 2/2552
ในวันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม 2552
ณ ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา
ในการนี้ทางโครงการ ฯ ต้องการให้ผู้ผ่านการอบรม นำผลิตภัณฑ์ หรือสินค้าของตนเองออกแสดงในงานสนใจ
ติดต่อลงชื่อ เพื่อจองบู๊ทแสดงสินค้าได้ (นุ้ย จนท.NEC โทร 08-1715-8517)
กรุณาระบุชื่อของผลิตภัณฑ์ จำกัดคนละ 1 booth เท่านั้น
“รู้เท่าทันในวันนี้ กับภาษีซื้อต้องห้าม” สัมมนา ฟรี
----- Original Message -----
From: เฉพาะกิจ ผู้จัดการระบบ
Sent: Tuesday, April 07, 2009 3:05 PM
Subject: ข่าวประชาสัมพันธ์การจัดสัมมนาเรื่อง "รู้เท่าทันในวันนี้ กับภาษีซื้อต้องห้าม"
เรียน สมาชิกสารสรรพากรทุกท่าน
ด้วยในปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นจำนวนมาก ที่ยังปฏิบัติเกี่ยวกับการยื่นแบบแสดงรายการฯ เพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดปัญหาในด้านการบริหารงานจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งในด้านการตรวจสอบภาษีอากรและการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม กรมสรรพากรจึงได้จัดสัมมนา
เรื่อง “รู้เท่าทันในวันนี้ กับภาษีซื้อต้องห้าม” เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ทราบถึงแนวปฏิบัติได้ถูกต้องตรงกัน โดยจะจัดให้มี
การสัมมนา ในวันที่ 28 - 30 เมษายน 2552 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกรมสรรพากร จำนวน 6 รอบ โดยมีรายละเอียดดังนี้
รอบที่ 1 วันอังคารที่ 28 เมษายน 2552 เวลา 08.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกรมสรรพากร
รอบที่ 2 วันอังคารที่ 28 เมษายน 2552 เวลา 13.00 - 16.30 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกรมสรรพากร
รอบที่ 3 วันพุธที่ 29 เมษายน 2552 เวลา 08.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกรมสรรพากร
รอบที่ 4 วันพุธที่ 29 เมษายน 2552 เวลา 13.00 - 16.30 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกรมสรรพากร
รอบที่ 5 วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน 2552 เวลา 08.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกรมสรรพากร
รอบที่ 6 วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน 2552 เวลา 13.00 - 16.30 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกรมสรรพากร
สำหรับท่านที่สนใจเข้ารับฟังการสัมมนาในครั้งนี้สำรองที่นั่งได้ที่
http://www.rd.go.th/publish/seminar/page1.html ทางเดียวเท่านั้น ในวันที่ 10 เมษายน 2552 เวลา 13.00 น เป็นต้นไป ( จองก่อนได้สิทธิ์ก่อน ) ไม่มีที่นั่งเสริมให้แก่ผู้ที่ไม่ได้ทำการสำรองที่นั่ง หรือสำรองที่นั่งไม่ทัน การสัมมนานี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และ ไม่สามารถนับเป็นชั่วโมงการอบรมของผู้สอบบัญชีภาษีอากรได้
From: เฉพาะกิจ ผู้จัดการระบบ
Sent: Tuesday, April 07, 2009 3:05 PM
Subject: ข่าวประชาสัมพันธ์การจัดสัมมนาเรื่อง "รู้เท่าทันในวันนี้ กับภาษีซื้อต้องห้าม"
เรียน สมาชิกสารสรรพากรทุกท่าน
ด้วยในปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นจำนวนมาก ที่ยังปฏิบัติเกี่ยวกับการยื่นแบบแสดงรายการฯ เพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดปัญหาในด้านการบริหารงานจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งในด้านการตรวจสอบภาษีอากรและการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม กรมสรรพากรจึงได้จัดสัมมนา
เรื่อง “รู้เท่าทันในวันนี้ กับภาษีซื้อต้องห้าม” เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ทราบถึงแนวปฏิบัติได้ถูกต้องตรงกัน โดยจะจัดให้มี
การสัมมนา ในวันที่ 28 - 30 เมษายน 2552 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกรมสรรพากร จำนวน 6 รอบ โดยมีรายละเอียดดังนี้
รอบที่ 1 วันอังคารที่ 28 เมษายน 2552 เวลา 08.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกรมสรรพากร
รอบที่ 2 วันอังคารที่ 28 เมษายน 2552 เวลา 13.00 - 16.30 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกรมสรรพากร
รอบที่ 3 วันพุธที่ 29 เมษายน 2552 เวลา 08.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกรมสรรพากร
รอบที่ 4 วันพุธที่ 29 เมษายน 2552 เวลา 13.00 - 16.30 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกรมสรรพากร
รอบที่ 5 วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน 2552 เวลา 08.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกรมสรรพากร
รอบที่ 6 วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน 2552 เวลา 13.00 - 16.30 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกรมสรรพากร
สำหรับท่านที่สนใจเข้ารับฟังการสัมมนาในครั้งนี้สำรองที่นั่งได้ที่
http://www.rd.go.th/publish/seminar/page1.html ทางเดียวเท่านั้น ในวันที่ 10 เมษายน 2552 เวลา 13.00 น เป็นต้นไป ( จองก่อนได้สิทธิ์ก่อน ) ไม่มีที่นั่งเสริมให้แก่ผู้ที่ไม่ได้ทำการสำรองที่นั่ง หรือสำรองที่นั่งไม่ทัน การสัมมนานี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และ ไม่สามารถนับเป็นชั่วโมงการอบรมของผู้สอบบัญชีภาษีอากรได้
วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2552
ทำ..ในสิ่งที่อยากจะทำ
E-mail: จากพี่ปราโมทย์ ดีม๊าก ๆ เลยค่ะ
ขอบคุณ พี่โมทย์ค่ะ
บทความนี้เขียนขึ้นโดย จอร์จ คอลลิน ซึ่งเป็นดาราตลกที่โด่งดัง
เขาเขียนขึ้นในวันที่ 11 กันยายน (ตึกเวิรด์เทรดถล่ม)
หลังจากที่ทราบว่าภรรยาของเขาเสียชีวิตในตึกนั้นด้วย.
ทำ..ในสิ่งที่อยากจะทำ อยากให้ทุกคนได้อ่าน ข้อความนี้ มีความหมายดีนะ
ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น
มีถนนกว้างขึ้นแต่ความอดกลั้นน้อยลง
เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ครอบครัวของเรากลับเล็กลง
เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพกลับแย่ลง
เรามีความรักน้อยลง แต่มีความเกลียดมากขึ้น
เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว
แต่เรากลับพบว่า แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้านกลับยากเย็น...........
เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่แค่ห้วงในหัวใจกลับไม่อาจสัมผัสถึง
เรามีรายได้สูงขึ้น แต่ศีลธรรมกลับตกต่ำลง
เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้นแต่สุขภาพแย่ลง
ทุกวันนี้ทุกบ้านมีคนหารายได้ได้ถึง 2 คน แต่การหย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น……จากนี้ไป……ขอให้พวกเรา อย่าเก็บของดี ๆ ไว้โดยอ้างว่าเพื่อโอกาสพิเศษ
เพราะทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่คือ ……โอกาสที่พิเศษสุด……แล้ว
จงแสวงหา การหยั่งรู้
จงนั่งตรงระเบียงบ้านเพื่อชื่นชมกับการมีชีวิตอยู่
โดยไม่ใส่ใจกับความ…..อยาก…
จงใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูงคนที่รักให้มากขึ้น…….
กินอาหารให้อร่อย
ไปเที่ยวในที่ที่อยากจะไป
ชีวิตคือโซ่ห่วงของนาทีแห่งความสุขไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ให้รอด
เอาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสีย
น้ำหอมดี ๆ ที่ชอบ จงหยิบมาใช้เมื่ออยากจะใช้
เอาคำพูดที่ว่า…….สักวันหนึ่ง……..ออกไปเสียจากพจนานุกรม
บอกคนที่เรารักทุกคนว่าเรารักพวกเขาเหล่านั้นแค่ไหน
อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ที่จะทำอะไรก็ตามที่ทำให้
เรามีความสุขเพิ่มขึ้น ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที มีความหมาย เราไม่รู้เลยว่าเมื่อไรมันจะสิ้นสุดลง
อาจารย์ สิทธิเดช ลีมัคเดช จะเปิดพอคเก็ตบุ๊คเล่มใหม่ "เมื่อ SMEs จะมีเว็บไซต์
ข่าวจากอาจารย์ของเรานะค่ะ
อาจารย์ สิทธิเดช ลีมัคเดช จะเปิด
"คลีนิก ปรึกษาฟรีอีคอมเมิร์ช "
ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ศูนย์ประชุมสิริกิตติ์ ที่บู๊ท สำนักพิมพ์ซีเอ็ด
ในวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2552 เวลา 16.30-18.00 น.
หากพี่น้อง NEC ท่านใดว่าง ก็ขอเรียนเชิญ ไปอุดหนุนพอคเก็ตบุ๊คเล่มใหม่ "เมื่อ SMEs จะมีเว็บไซต์" ของ
ผมในงานด้วยนะครับปล. ขออภัยที่มิได้มาเชิญด้วยตัวเอง
อาจารย์ สิทธิเดช ลีมัคเดช จะเปิด
"คลีนิก ปรึกษาฟรีอีคอมเมิร์ช "
ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ศูนย์ประชุมสิริกิตติ์ ที่บู๊ท สำนักพิมพ์ซีเอ็ด
ในวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2552 เวลา 16.30-18.00 น.
หากพี่น้อง NEC ท่านใดว่าง ก็ขอเรียนเชิญ ไปอุดหนุนพอคเก็ตบุ๊คเล่มใหม่ "เมื่อ SMEs จะมีเว็บไซต์" ของ
ผมในงานด้วยนะครับปล. ขออภัยที่มิได้มาเชิญด้วยตัวเอง
งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ 26 มี ค - 6 เมย 52
มีหนังสือราคาพิเศษเยอะเลยค่ะ
วันที่ 27 มีนาคม – 6 เมษายน 2552 เปิดให้เข้าชมงานเวลา 10.00 - 21.00 น.
สถานที่จัดงาน ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
แพลนนารีฮอลล์,
Main Foyer
โซน C ชั้นบน-ล่าง และโซนพลาซา จำนวน 15,500 ตารางเมตร
สำหรับกิจกรรมการจำหน่ายหนังสือและสื่อการศึกษา
ห้อง Ball room , Hall A และ Atrium จำนวน 2,700 ตารางเมตร สำหรับจัดนิทรรศการและเวทีสำหรับกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและแนะนำหนังสือ
ห้อง Meeting Room 1-4 จำนวน 900 ตารางเมตร งานแสดงหนังสือนานาชาติ และการอบรมสัมมนา
ห้อง Board Room 2-4 , ห้อง Lotus จำนวน 900 ตารางเมตร สำหรับจัดอบรมสัมมนาวิชาการ
รายชื่อผู้ออกบูธและผู้จัดพิมพ์ http://www.bangkokibf.com/exhibitorsList_thai.php
ร่วมลดภาวะโลกร้อนและหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด ในการเข้าชมงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 37 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม - 6 เมษายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ขอเชิญผู้เข้าร่วมชมงานใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยสามารถจอดรถที่พื้นที่อาคารจอดรถและลานจอดรถโดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยทั้ง 12 แห่ง ซึ่งสามารถจอดรถได้กว่า 4700
วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2552
อ.สิทธิเดช ฝากข่าวมาว่า "ในวันที่ 5 เมษายน 2552 เวลา 16.30 - 18.00 น
----- Original Message -----
From: pakwipa namjunta
To: popinfo@gmail.com
Sent: Friday, March 20, 2009 8:48 AM
Subject: ลงเว็บด้วยคะ
พี่ป็อบ ฝากลงเว็บกลางเพื่อแจ้งประชาสัมพันธ์ ด้วยนะคะ
From: pakwipa namjunta
To: popinfo@gmail.com
Sent: Friday, March 20, 2009 8:48 AM
Subject: ลงเว็บด้วยคะ
พี่ป็อบ ฝากลงเว็บกลางเพื่อแจ้งประชาสัมพันธ์ ด้วยนะคะ
อ.สิทธิเดช ฝากข่าวมาว่า
"ในวันที่ 5 เมษายน 2552 เวลา 16.30 - 18.00 น. จะเปิดตัวหนังสือ
เรื่อง เมื่อ SMEs จะมี website
ที่ บู๊ทหนังสือสำนักพิมพ์ซีเอ็ด ในงานสัปดาห์หนังสือ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์"
ถ้าใครว่างก็ขอเรียนเชิญนะคะ
วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
โฆษณา สินค้าได้ ที่ http://nec.dip.go.th
For information ka,
----- Original Message -----
From: pakwipa namjunta
To: popinfo@gmail.com
Sent: Tuesday, February 17, 2009 2:34 PM
Subject: ลงข่าวให้ด้วยคะ
พี่ป๊อป พอดีว่าวันนี้มาสัมมนา nec ที่ ม.เกษตร แล้วเจ้าหน้าที่ของส่วนกลางแจ้งว่า
ถ้าผู้ประกอบการคนใดต้องการที่จะโฆษณา สินค้าของตนเอง (แต่ว่าต้องผ่านการอบรม nec )
สนใจเข้าที่ web ของ กรมได้นะคะ http://nec.dip.go.th ได้ หรือไม่ติดต่อไปที่ส่วนกลางได้ที่ 02-354-3171
นุ้ย
กระทรวงพาณิชย์ ขอเชิญร่วมงาน "Africa Day 2009"
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552
เรื่อง กระทรวงพาณิชย์ ขอเชิญร่วมงาน "Africa Day 2009"
กระทรวงพาณิชย์ โดยศูนย์ภูมิภาคแอฟริกา (Africa Hub) ขอเชิญร่วมงาน "Africa Day 2009" ในวันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ (BCC) เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพฯ
ซึ่งภายในงานมีการบรรยายพิเศษ ในหัวข้อต่างที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการ ทั้งที่เป็นผู้ส่งออกและยังไม่เป็นผู้ส่งออก อาทิ "โอกาสทางการค้าและการลงทุนในแอฟริกา" , "ทำธุรกิจอย่างไรในแอฟริกา" , "ธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จและมีความเชี่ยวชาญในแอฟริกา" และยังมีนิทรรศการการแสดงศักยภาพด้านการค้าการลงทุนของภุมิภาคแอฟริกา รวมทั้งคลินิกการส่งออก (Export Clinic) เพื่อให้คำปรึกษาด้านการค้า การลงทุน โดยผู้เชี่ยวชาญตลาดแอฟริกาทั้งภาครัฐและเอกชน
นักธุรกิจ ผุ้ประกอบการที่เป็นผู้ส่งออกและยังไม่เป็นผู้ส่งออกที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมงานดังกล่าวได้ที่ ศูนย์ภูมิภาคแอฟริกา กระทรวงพาณิชย์ (รับจำนวนจำกัด) โทร 0 2547 5303 หรือ กรมส่งเสริมการส่งออก โทร 0 2547 512 0093 ต่อ 282 , 605 (เวลาราชการ) หรือ www.moc.go.th
เรื่อง กระทรวงพาณิชย์ ขอเชิญร่วมงาน "Africa Day 2009"
กระทรวงพาณิชย์ โดยศูนย์ภูมิภาคแอฟริกา (Africa Hub) ขอเชิญร่วมงาน "Africa Day 2009" ในวันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ (BCC) เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพฯ
ซึ่งภายในงานมีการบรรยายพิเศษ ในหัวข้อต่างที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการ ทั้งที่เป็นผู้ส่งออกและยังไม่เป็นผู้ส่งออก อาทิ "โอกาสทางการค้าและการลงทุนในแอฟริกา" , "ทำธุรกิจอย่างไรในแอฟริกา" , "ธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จและมีความเชี่ยวชาญในแอฟริกา" และยังมีนิทรรศการการแสดงศักยภาพด้านการค้าการลงทุนของภุมิภาคแอฟริกา รวมทั้งคลินิกการส่งออก (Export Clinic) เพื่อให้คำปรึกษาด้านการค้า การลงทุน โดยผู้เชี่ยวชาญตลาดแอฟริกาทั้งภาครัฐและเอกชน
นักธุรกิจ ผุ้ประกอบการที่เป็นผู้ส่งออกและยังไม่เป็นผู้ส่งออกที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมงานดังกล่าวได้ที่ ศูนย์ภูมิภาคแอฟริกา กระทรวงพาณิชย์ (รับจำนวนจำกัด) โทร 0 2547 5303 หรือ กรมส่งเสริมการส่งออก โทร 0 2547 512 0093 ต่อ 282 , 605 (เวลาราชการ) หรือ www.moc.go.th
วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2552
นัดหม่ำข้าว ตอนรับปีฉลู 2552
นัดหม่ำข้าว ตอนรับปีฉลู 2552
สถานที่ บ้านพี่ปราโมทย์ อ่างศิลา ชลบุรี
วัน อาทิตย์ 18 มกราคม 2552
16:00 ปิงปอง
18:00 หม่ำข้าวกัน
เพื่อน ๆ อยากมาร่วมกิจกรรมตอนช่วงไหน ตามสบายเลยนะค่ะ
กิจกรรม เบื้องต้น
เล่นปิงปอง, ฝึกนับเลข, อื่น ๆ
ร้องคาราโอเกะ ตีแบดมินตัน ใครมีอะไรก็เสนอได้ค่ะ
confim ที่ กิ๊บ โทร 08 1902 6051 จะได้กะเตรียมปริมาณอาหารค่ะ
รายการอาหารและอุปกรณ์การกิน จะซื้อเข้าไป ใครอยากกินอะไรแนะนำได้ค่ะ ที่ พี่ใหญ่ โทร 08 1912 9289 และ ป๊อป 08 1636 8591
ตอนนี้มีรายการอร่อยเพี๊ยบเลย ขออุบไว้ก่อนนะ คาดว่าจะซื้อจากแถวแหลมฉบังนะ
กิ๊บแจ้งว่า ตอนนี้มีคน confirm แล้ว ได้แก่
1 พี่ปราโมทย์
2.พี่อนันต์
3. น้าหมู
4. พี่ใหญ่
5.พี่ป๊อป
6.พี่อุ๊
7.กิ๊บ
8.พี่ยุ้ย (confirm เฉพาะเล่นปิงปองนะ ไม่ว่างทานข้าวเย็น)
9.อาร์ต
10. พี่แหม่ม
11. พี่ปิ๋ม
12. พี่หนุ่ย
13. พี่เดือน
14. น้าหมู (confirm ฝึกนับเลข ถนัดม๊าก ๆ)
ตัวอย่างรูปอาหาร
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
