วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

10 วิธี สุขฟรี - ปัจจุบันขณะที่คุณสุขเป็น ตามแนวท่าน ดิช นัท ฮันส์ - หมู่บ้านพลัม

1. วันว่างลองให้วันทั้งวันอยู่กับการว่าง ไม่มีนัด ไม่ไปธุระที่ไหนไม่กำหนดตารางอะไรให้ชีวิต จะทำกิจวัตรอะไรก็ให้เป็นแบบช้าๆ สบายๆไม่รีบเร่ง อยู่กับแต่ละกิจกรรมอย่างเต็มร้อยให้ใจได้พักผ่อนอย่างแท้จริงกับการดำรงอยู่ในปัจจุบันขณะ วันว่างๆจะช่วยเติมเต็มพลังกายและใจให้แก่เรา แถมยังช่วยลดใช้พลังงานโลกด้วยวันนั้นอาจจะยอมให้ตัวเองนอนตื่นสายกว่าปกติสักนิดอาบน้ำแบบมอบความทะนุถนอมให้กับร่างกายเบิกบานกับอาหารเช้าที่ดีกับสุขภาพ เปิดประตู เปิดหน้าต่างรับลมธรรมชาติเดินสำรวจละแวกบ้านถ้าจะหยิบหนังสือที่ซื้อไว้ตั้งนานแต่ยังไม่ได้อ่านสักทีมาอ่านก็ไม่ผิดกฎอะไรตกค่ำจะลองทานมื้อเย็นใต้แสงเทียนให้หลอดไฟกับมิเตอร์ได้พักผ่อนก็ให้ความรู้สึกพิเศษดีเช่นกัน

2 . หายใจเล่นสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับการอยู่เงียบๆคนเดียว ติดทีวี ติดโทรศัพท์อาจลองหาเวลาตีสนิทกับเพื่อนใกล้ตัวของเราทั้งสอง คือ คุณลมหายใจเข้าและคุณลมหายใจออก ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง เดิน นอน หรือ เคลื่อนไหวเราจะตระหนักรู้ถึงเพื่อนสองคนนี้อยู่เสมอ หมั่นเช็คอยู่เรื่อยๆว่าเพื่อนทั้งสองคนของเรามีสภาพอย่างไร ยังสบายดีอยู่หรือเปล่าเมื่อเราดูแลลมหายใจ ลมหายใจก็จะดูแลเรา การดุแลกันและกันเช่นนี้จะส่งผลดีต่อทางร่างกายและจิตใจความสงบที่เกิดจากภายในจะส่งผลที่น่าประทับใจถึงภายนอกในเวลาที่เราต้องเผชิญกับเรื่องยากๆ ต้องคิด ตัดสินใจและทำอะไรอยู่ตลอดเวลา การได้พักสัก 15 นาทีหรือสักชั่วโมงจะช่วยให้หัวที่เคยหมุนจนร้อน ใจที่เต้นรัวเร็วร่างกายที่เครียดตึงค่อยๆ ผ่อนคลายและเบาลงอย่างไม่น่าเชื่อ

3. ชื่นชมธรรมชาติ ไม่ต้องรอให้ถึงวันพักร้อน แค่ตื่นเช้าขึ้นสักนิดดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ให้แสงแรกของพระอาทิตย์ล้างตาให้สะอาด ช่วงสายๆอาจจะมองท้องฟ้าสัก 5-10 นาที ดูเมฆที่ค่อยๆเปลี่ยนรูปก็เติมความสดชื่นได้ดีบ่ายคล้อยเดินเล่นให้สายลมเย็นปะทะหน้าเบาๆสูดเอากลิ่นหอมของดอกไม้ใบหญ้า ได้เวลาพลบค่ำปิดไฟให้หมดจะได้เห็นดาวและเดือนที่ลอยเกลื่อนฟ้าได้ชัดขึ้นให้เวลาธรรมชาติได้บำบัดเราทั้งกายและจิตใจ

4. สลายไขมัน

สำหรับคนบ้าพลัง คนกลัวอ้วน คนไม่ชอบออกกำลังกายการออกกำลังกายให้ได้เหงื่อจะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นหรืออาจว่ายน้ำในความเงียบ ซึ่งนั้นหมายถึงรวมไปถึงเสียงในหัวเราด้วยลองว่ายไปเรื่อยๆ ตระหนักรู้การเคลื่อนไหวของร่างกายเราเสียงในหัวเราจะค่อยๆ เงียบลงเอง หรืออาจจะลองปั่นจักรยานรับลมสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ในหมู่บ้าน หรืออะไรก็ได้ที่เราชอบนอกจากจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข (เอ็นโดฟิน)แล้วยังช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีอีกด้วย

5. ศิลปินสมัครเล่นหยิบดินสอหรือสี ขึ้นมาวาดรูปแบบไม่ห่วงสวย ปลดปล่อยจินตนาการให้ความเป็นเด็กในตัวออกมามีชีวิตผ่านงานศิลปะหรือประดิษฐ์งานฝีมืออะไรสักอย่างที่ทำให้เราได้มีพื้นที่และอิสนระจากความคิด ความยึดติด ทั้งนี้พบว่าการถักนิตติ้งช่วยสงบใจได้เป็นอย่างดี แถมยังเสริมสร้างสมาธืบำบัดความเบื่อหน่าย ความเครียด และแรงกดดันจากการทำงานทั้งยังได้ผลงานเป็นของขวัญให้คนรอบข้างอีกด้วย เรียกว่า บำบัดใจผู้ให้สุขใจผู้รับ

6. สุขใจกับงานบ้าน การได้ลงมือ ปัดกวาดเช็ดถู จัดข้าวของในบ้านให้เป็นระเบียบ ทำสวนปลูกต้นไม้ ตัดแต่งใบเสีย ล้วนเป็นโอกาส ให้เราได้กลับมาปัดกวาดเช็ดถูจัดระเบียบ และรดน้ำเมล็ดพันธุ์แห่งความสุข ให้ใจเราได้เติบโต งอกงามสะอาด และใหม่สดอยู่เสมอ "บ้านสะอาดสดใส ใจก็งดงาม"

7. สนทนาใจใช้เวลากับเพื่อนแลกเปลี่ยนสุขทุกข์ของกันและกันช่วยฝึกการฟังอย่างลึกซึ้ง และทำให้ตระหนักรู้ว่าเรามีคนอยู่เคียงข้างเสมอ หาวันว่างยามบ่าย บรรยากาศสบายๆที่บ้านใครสักคนนั่งพุดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาในวิถีแห่งสติอาจเป็นความตื่นเต้นจากความรับผิดชอบใหม่ๆหรือมองเห็นความสดใหม่ในงานเก่าหรือจะเป็นผู้คนที่เราพบเจอได้เรียนรู้ความสุขที่เรามี หรือแม้แต่ความเหนื่อยล้า เรื่องอกหัก ความทุกข์ใจความยากลำบากในครอบครัวที่ต้องเผชิญอื่นๆอีกมากมายที่เราพร้อมเปิดใจแบ่งปันต่อกันการได้ใช้เวลาอยู่ตรงนี้ด้วยกันอย่างเต็มเปี่ยมถือเป็นการบำรุงหล่อเลี้ยงซึ่งกันและกันแบบไม่ต้องใช้สตางค์

8. กลับบ้านแล้วใช้เวลาเพื่อพูดคุย ทำความรู้จัก เรียนรู้กันและกันให้มากขึ้นลองเริ่มจากการบอกกล่าวความรู้สึกภายในกับคนในบ้านไม่ว่าจะเป็นการกล่าวขอโทษสิ่งที่เราอาจจะพลาดพลั้งไปจนทำให้อีกฝ่ายเสียใจหรือกล่าวขอบคุณในความน่ารัก ความดีที่อีกฝ่ายได้ทำให้แก่เราหรือเลือกกิจกรรมที่ชอบด้วยกันที่บ้าน เช่น ดื่มน้ำชา กินขนมทำอาหารด้วยกัน นอนดูหนังเรื่องโปรด อ่านหนังสือ ผลัดกันเล่านิทานเล่นเกม ออกกำลังกาย ร้องเพลง เล่นดนตรีปิดท้ายด้วยการกอดสมาธิก็อบอุ่นดีไม่น้อย

9 แบ่งปันด้วยใจแบ่งปันเวลาทำประโยชน์เพื่อคนอื่นและสังคม บางคนอาจเริ่มต้นง่ายๆจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว เช่น โปรยอาหารให้นกตัวน้อยๆ ในสวนที่บ้านเดินเก็บขยะแถวบ้าน รื้อข้าวของที่ไม่ใช้แล้วหรือไม่ค่อยได้ใช้(แถมได้ฝึกการตัดใจด้วย) มาทำความสะอาดแล้วนำไปบริจาคหาเจ้าของที่คู่ควรคนใหม่ หรือจะเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาต่างๆก็มีให้เลือกมากมาย ลองเข้าไปดูที่เว็บไซต์http://www.volunteerspirit.org/

10 ยิ้ม
ยิ้ม ให้กับตัวเองยิ้มแบบใสๆ ยิ้มให้กว้างๆ จนเผื่อแผ่ไปยังคนรอบข้าง แล้วจะพบว่าความสุขใจที่ไม่ต้องใช้สตางค์แบบนี้นั้นแสนวิเศษ
ยิ่งให้ก็ยิ่งได้
ที่มา : วารสาร พลัม ฉบับที่6 กรกฎาคม-กันยายน 2552
*******

ไม่มีความคิดเห็น: